นเดือนพฤษภาคมนี้ ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือถึง 7 ประเภทด้วยกัน เริ่มแจกในวันที่ 1, 15 และ 18 พฤษภาคม
ผู้ถือบัตรฯ จะได้รับเงิน 3 ประเภท อย่างแรก คือได้วงเงินเพื่อซื้อของกินของใช้ที่จำเป็น และสินค้าเพื่อการศึกษา จากร้านธงฟ้าประชารัฐ 200-300 บาทต่อเดือน โดยไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ อย่างที่ 2 คือ ได้ค่าเดินทางรถโดยสารสาธารณะ ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน รถ บขส. และรถไฟ ประเภทละ 500 บาทต่อคนต่อเดือน อย่างที่ 3 ได้วงเงินซื้อก๊าซหุงต้ม 45 บาท ต่อ 3 เดือน โดยนำบัตรไปซื้อก๊าซจากร้านที่ร่วมรายการ โดยไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้เช่นกัน
ผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 0-30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือ เดือนละ 100 บาท ส่วนผู้ที่มีรายได้ 30,001-100,000 บาทต่อปี ได้เงินช่วยเหลือ เดือนละ 50 บาท
ผู้ถือบัตรฯ ยังได้รับสิทธิคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 5 ในเดือนถัดไป โดยผู้ที่ใช้จ่ายผ่านบัตร 100 บาท ได้คืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 5 บาท ถ้าใช้จ่ายผ่านบัตร 1,000 บาท ได้คืน 50 บาท
และหากใช้จ่ายผ่านบัตร 10,000 บาท จะได้คืน 500 บาท โดยเงินจะถูกโอนเข้ากระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Money ผู้ถือบัตรฯ สามารถนำบัตรไปกดเป็นเงินสดออกมาได้ หรือใช้รูดซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าที่ร่วมโครงการ
ส่วนในวันที่ 18 พฤษภาคม จะเริ่มให้ค่าน้ำ 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้ที่จะได้รับตรงนี้ต้องเป็นครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิเรียบร้อย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ถึงกันยายน 2563 ระยะเวลา 11 เดือน
รวมทั้งยังได้ ค่าไฟ 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เงื่อนไขคือต้องเป็นครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิเรียบร้อย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ถึงกันยายน 2563
แม้ว่าจะมีการกำหนดวันที่เงินเข้าบัญชีแน่นอน แต่เนื่องจากมีผู้ได้รับสิทธิจำนวนมาก จึงต้องทยอยจ่ายเงินเข้าบัตร ทำให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบางคนอาจได้รับเงินหลังจากวันที่ระบุไว้
โดยผู้ถือบัตรสามารถตรวจสอบสิทธิสวัสดิการสังคมได้ตามช่องทางที่ขึ้นอยู่หน้าจอ ด้วยการใส่หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน แล้วกดปุ่ม “ตรวจสอบ” ซึ่งจะรู้ผลได้ทันที
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น